ใช้กราฟแท่งเทียนมานาน ไม่เห็นว่ามันจะช่วยให้เราเทรดได้เปรียบเลย ใช้ตามเค้าไปก็เท่านั้นเอง
ผมถามตัวเองว่าใช้ทำไมเนี่ย ไม่เห็นช่วยอะไรเราเลย โชคดีมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้อธิยายให้ฟัง
ทำให้การเทรดสนุกขึ้นสุด ๆ
ที่จริงเราแค่ไม่เข้าใจมันเท่านั้นเอง กราฟแท่งเทียนบอกอะไรเรามากมาย ช่วยในเรื่องการตัดสินใจ
และความเข้าใจพฤติกรรมของคนในตลาดได้ดีมาก ๆ
มาดูกันก่อนว่าแท่งเทียนเป็นยังไง
ต้องชมคนญี่ปุ่นที่คิดและทดสอบจนสร้าง และใช้ประโยชน์จากกราฟแท่งเทียนขึ้นมาได้จริง ๆ เพราะกว่าจะรวบรวมเป็นความรู้ให้เราใช้ในปัจจุบันต้องใช้เวลาเก็บข้อมูล และความอดทนสูงมาก ๆ ผมทำไม่ได้แน่
เค้าต้องเก็บข้อมูลกราฟแท่งเทียนซึ่งต้องเก็บข้อมูลตัวเลขราคา 4 ราคาด้วยกัน คือราคา
High, Low, Open และ Close จากนั้นก็นำมาดูพฤติกรรมของราคาว่าวันนี้ตัวเลขราคาทั้ง 4 เป็นแบบ
ไหน เอามาทำเป็นกราฟ ต่อ 1 แท่งเทียนจึงต้องมีเวลากำหนด เช่น เป็น 60 นาที เป็นวัน เป็นสัปดาห์
ตัวกราฟแท่งเทียนประกอบด้วยส่วนใส้เทียน (shadow) มีทั้งด้านบนด้านล่าง และเนื้อเทียน
(real body) ปลายใส้เทียนทั้ง 2 ทางบอกการเหวี่ยงของราคาระหว่างระยะเวลาของแท่งเทียนนั้น
ส่วนตัวเนื้อเทียนบอกถึงความเปลี่ยนแปลงราคาเมื่อจบระยะเวลาแท่งเทียนนั้น
ข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำเป็นกราฟแท่งเทียนให้เห็นนี้ สามารถนำมาศึกษาพฤติกรรมของคนส่วนมากได้
และยังสามารถนำมาช่วยในการวางแผนการเทรดได้ด้วย
กร๊าฟแท่งเทียนบอกอะไรเรา และใช้ดูพฤติกรรมคนในตลาดได้อย่างไรติดตามตอนต่อไปครับ
ขอให้ผู้เรียนรู้ พยายาม สำเร็จอย่างที่หวัง
Mee?
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ตลาดก็เป็นแบบนี้
บ้าที่สุดเลย เวลาซื้อหุ้นทีไรราคาตกทุกที ตัดสินใจขายหุ้นราคาเด้งใส่หน้าซะงั้น
มีใครเป็นแบบนี้มั้ย (อยากมีเพื่อน) ผมวนเวียนอยู่กับวงจรแบบนี้เป็นเวลานานพอสมควรเลย
กว่าจะรู้ตัวก็ขาดทุนไปเยอะแล้ว สุดท้ายต้องหยุด และอ่านหนังสือ ลงเรียนเยอะ ๆ และแล้ว
วันหนึ่งผมก็เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
ขั้นแรกต้องเข้าใจก่อนว่าราคาเคลื่อนไหวเพราะอะไร
ราคาเคลื่อนไหวจาก มูลค่าพื้นฐาน x ความคาดหวังของคนในตลาด
หมายความว่าในระยะยาวแล้วราคาเคลื่อนไหวตามมูลค่าพื้นฐาน แต่ในระยะสั้นจะมีการเกร็ง
กำไรอยู่ตลอดเวลา
เมื่อมีการเกร็งกำไรก็จะมีความคาดหวัง แล้วความคาดหวังก็จะทำให้เราเจ็บตัว ลองดูภาพนี้กัน
ทุกครั้งที่มีความคาดหวังของการเติบโต และราคาของหุ้น จะมีคนที่สามารถหาประโยชน์จากความ
คาดหวังนั้น ๆ เสมอ
ราคาจะวิ่งไปตามความคาดหวัง (y0) ตลาดจะเริ่มเกิดความโลภ และมีการคาดหวังสูงไปอีกจนเกิน
จริงไป (y1) ราคาวิ่งไปไม่ถึง คนเกิดความโลภก็จะซื้อ ๆ ๆ ๆ ๆ เพราะหวังว่าจะไปถึง
สุดท้ายไปไม่ถึงตกลงมา ปรับตัวเข้าหามูลค่าแท้จริง
เมื่อราคาลงมาก็จะมีคนคาดหวังว่าจะตกต่อไป จะมีแรงขายออกมาทำให้ราคาลงไปอีกถึงจุดที่คาด
หวัง (x0) ตลาดกลับเกิดความกลัวขึ้น ทำให้ความคาดหวังลงไปอีก คนในตลาดจะขาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เพราะกลัวว่าจะตกไปที่จุดที่เกินจริง (x1)
แต่ก็ไปไม่ถึง สุดท้ายราคาก็ปรับกลับมาที่มูลค่าแท้จริงอีกนั่นแหละ ถ้าหุ้นตัวนี้ดีจริง มูลค่าแท้จริง
เพิ่มขึ้นตลอด ราคาต่ำสุดก็จะยกไปเรื่อย ๆ จนกว่ามูลค่าแท้จริงของหุ้นตัวนั้นจะหยุดเติบโตนั่นเอง
พอผมได้เข้าใจเรื่องนี้ทำให้การเทรดของผมไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร หลักการไหนก็ดีขึ้นทั้งหมด
ถ้าวันนี้คุณยังขาดทุนอยู่ ลองทำความเข้าใจเรื่องนี้ดูนะครับ อาจมีประโยชน์กับการเทรดของคุณบ้าง
ขอให้ผู้เรียนรู้ พยายาม สำเร็จอย่างที่หวัง
Mee?
มีใครเป็นแบบนี้มั้ย (อยากมีเพื่อน) ผมวนเวียนอยู่กับวงจรแบบนี้เป็นเวลานานพอสมควรเลย
กว่าจะรู้ตัวก็ขาดทุนไปเยอะแล้ว สุดท้ายต้องหยุด และอ่านหนังสือ ลงเรียนเยอะ ๆ และแล้ว
วันหนึ่งผมก็เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
ขั้นแรกต้องเข้าใจก่อนว่าราคาเคลื่อนไหวเพราะอะไร
ราคาเคลื่อนไหวจาก มูลค่าพื้นฐาน x ความคาดหวังของคนในตลาด
หมายความว่าในระยะยาวแล้วราคาเคลื่อนไหวตามมูลค่าพื้นฐาน แต่ในระยะสั้นจะมีการเกร็ง
กำไรอยู่ตลอดเวลา
เมื่อมีการเกร็งกำไรก็จะมีความคาดหวัง แล้วความคาดหวังก็จะทำให้เราเจ็บตัว ลองดูภาพนี้กัน
ทุกครั้งที่มีความคาดหวังของการเติบโต และราคาของหุ้น จะมีคนที่สามารถหาประโยชน์จากความ
คาดหวังนั้น ๆ เสมอ
ราคาจะวิ่งไปตามความคาดหวัง (y0) ตลาดจะเริ่มเกิดความโลภ และมีการคาดหวังสูงไปอีกจนเกิน
จริงไป (y1) ราคาวิ่งไปไม่ถึง คนเกิดความโลภก็จะซื้อ ๆ ๆ ๆ ๆ เพราะหวังว่าจะไปถึง
สุดท้ายไปไม่ถึงตกลงมา ปรับตัวเข้าหามูลค่าแท้จริง
เมื่อราคาลงมาก็จะมีคนคาดหวังว่าจะตกต่อไป จะมีแรงขายออกมาทำให้ราคาลงไปอีกถึงจุดที่คาด
หวัง (x0) ตลาดกลับเกิดความกลัวขึ้น ทำให้ความคาดหวังลงไปอีก คนในตลาดจะขาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เพราะกลัวว่าจะตกไปที่จุดที่เกินจริง (x1)
แต่ก็ไปไม่ถึง สุดท้ายราคาก็ปรับกลับมาที่มูลค่าแท้จริงอีกนั่นแหละ ถ้าหุ้นตัวนี้ดีจริง มูลค่าแท้จริง
เพิ่มขึ้นตลอด ราคาต่ำสุดก็จะยกไปเรื่อย ๆ จนกว่ามูลค่าแท้จริงของหุ้นตัวนั้นจะหยุดเติบโตนั่นเอง
พอผมได้เข้าใจเรื่องนี้ทำให้การเทรดของผมไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร หลักการไหนก็ดีขึ้นทั้งหมด
ถ้าวันนี้คุณยังขาดทุนอยู่ ลองทำความเข้าใจเรื่องนี้ดูนะครับ อาจมีประโยชน์กับการเทรดของคุณบ้าง
ขอให้ผู้เรียนรู้ พยายาม สำเร็จอย่างที่หวัง
Mee?
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)